จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันศุกร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2553

เข็มทิศชีวิตธุรกิจ

เข็มทิศชีวิตธุรกิจ โดยฐิตินาถ ณ พัทลุง ผู้เชี่ยวชาญเรื่องจิตใต้สำนึกสถาบันตรัยยา โรงพยาบาลปิยะเวท

ถึงเข็มทิศชีวิต

ตอนนี้ธุรกิจไม่ดีเลยค่ะ โดนตัดราคาลูกค้าไม่ค่อยเข้าร้าน คิดมากนอนไม่หลับ พยามไม่คิดอยู่ค่ะ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะคิด กลัวว่าอีกหน่อยครอบครัวเราจะเป็นยังไง ร้านที่เปิดใหม่ล้วนแต่เงินทุนหนาๆ แต่เรามีทุนไม่มากพอที่จะแข่งกับเขาได้เลยค่ะ

แฟนก็บอกต้องปรับเปลี่ยนชีวิตเราเอง ใช่ค่ะแต่ห่วงแค่ลูกเท่านั้น ถ้าส่งเค้าเรียนที่นี่ไม่ไหวต้องย้ายไปโรงเรียนอื่นเค้าจะรู้สึกยังไง เพราะเค้าก็รักเพื่อนที่เรียนอยู่ด้วยกันแล้ว แม่บอกอยู่นิ่งๆไปก่อนอย่าเพิ่งทำอะไร เพราะถ้าลงทุนอะไรตอนนี้ถ้าเกิดเลวร้ายลงจะยิ่งแย่

ลืมบอกไปค่ะเปิดร้านเน็ตอยู่ค่ะ แต่ทำถูกต้องทุกอย่างนะคะ ไม่รับเด็กหนีเรียน จดลิขสิทธิ์ถูกต้องทุกอย่างแต่ต้องมาสู้กับร้านที่เค้ารับเด็กหนีเรียน เกินเวลาก็เปิดรับถ้าเด็กร้านไหนมาเล่นที่ร้านก็จะมีเด็กมาตามกลับไปเล่นที่ร้านเค้าค่ะ

ทำไมคะเราก็ทำความดีเป็นคนดีแต่ทำไมไม่เห็นได้ดีเลย ร้านที่ไม่ดีกลับเจริญรุดหน้าขยายกิจการได้ดีทีเดียว คิดแล้วก็อดน้อยใจไม่ได้จริงๆค่ะ ขอบคุณที่รับอ่านนะคะ อย่างน้อยก็ได้ระบายบ้างแล้วค่ะ ขอให้คุณฐิตินาถมีความสุขกายสบายใจนะคะ ขอบคุณที่เขียนหนังสือมาช่วยจรรโลงใจให้รู้สึกดีบ้างเวลาแย่ๆนะคะ
                                                                                                                                                                                                        ขอบคุณจริงๆค่ะ
                              
สวัสดีค่ะ
 โลกกำลังบอกคุณว่าถ้าหากเราแค่เปิดธุรกิจตามกระแส โดยไม่เอาความสามารถที่แท้จริงของเราออกมาใช้เรากำลังละเลยศักยภาพที่เรามีและลดโอกาสในการพัฒนาตัวเราเอง

โลกหวังดีจึงช่วยเตือนด้วยการแสดงให้เราเห็นว่าถ้าเราใช้ชีวิตและ ทำงานแบบทำตามๆกันไปจะทำให้เราแข่งขันไม่ได้ เพราะเราไม่ได้ดึงจุดเด่นที่เรามีออกมาสร้างความแตกต่างให้ตัวเองมีคุณค่า

แม้เรื่องความรักหากคนๆหนึ่งไม่ทำให้ตัวเองมีคุณค่า เขาจะหาความรักที่แท้จริงอย่างไรก็ไม่เจอ แต่ทันทีที่คุณมีคุณค่ามีศรัทธา จนนับถือและรักตัวเองได้ คนรัก เพื่อนรัก ความรักที่ดีงามจึงสามารถปรากฏขึ้นในชีวิตได้ เพราะก่อนหน้านี้หากเราไม่รู้สึกถึงสิ่งใดในตัวเองแม้สิ่งนั้นมาปรากฏตรงหน้าเราก็มองไม่เห็นหรือเห็นก็ไม่สามารถรักษาไว้ได้

เรื่องต่างๆในชีวิตเป็นแบบนี้ เราทุกคนมีสิ่งที่ดีที่สุดอยู่ในตัวเราเอง หน้าที่ของเราคือดึงมันออกมาใช้ทำประโยชน์ให้ผู้อื่นให้โลกนี้มีความสุขขึ้น ในขณะเดียวกันเราก็ได้ขัดเกลาฝึกฝนตัวเราเอง ทำให้เรามีความสุข มีพลัง เต็มอิ่มได้ด้วยตัวเองก่อนแล้วความสำเร็จก็เป็นของที่มาคู่กัน คนมีความสุขพึงพอใจในชีวิตก็ประสพความสำเร็จเท่าที่เขากำหนดให้ชีวิตตัวเอง

มนุษย์ไม่ได้ทำงานเพื่อเลี้ยงกายเท่านั้นเราทำสิ่งต่างๆเพื่อหล่อเลี้ยงใจเรา หากเมื่อไรที่เราลืมหล่อเลี้ยงใจตัวเองให้ชุ่มชื่นจากการดำรงชีวิตที่มีประโยชน์มีคุณค่า ชีวิตจะแห้งแล้งจนใช้วัตถุ หรือความรักจากคนรักเติมเท่าไรก็ไม่เต็ม


ง่ายๆแค่นี้เอง

ปีใหม่นี้ไม่ว่าอะไรเข้ามาในชีวิตให้เห็นสิ่งนั้นเป็นของขวัญให้คุณได้พัฒนาตัวเอง ยกระดับชีวิตตัวเองไปสู่การทำประโยชน์ได้กว้างไกลยิ่งใหญ่ขึ้น

ดิฉันมักจะให้คนลองเดินไปในอนาคต ว่าตอนที่ผ่านเรื่องนี้ไปได้ด้วยดี
เขาใช้คุณสมบัติใช้ความเข้าใจตัวไหนจึงผ่านเรื่องนี้ไปได้อย่างสมบูรณ์ แล้วเอาความรู้ความเข้าใจที่มีในอนาคตนั้นมาใช้ประโยชน์ตอนนี้เลย


สิ่งที่เราได้รับจากโลกเป็นสิ่งที่พอเหมาะพอดีกับการเรียนรู้และเติบโตของเราในเวลานั้นเสมอ

ถึงเวลามองหาสิ่งที่ดี่ที่สุดในตัวเองเอาออกมาใช้ทำประโยชน์ให้โลกแล้วโลกจะตอบแทนเรา
เท่าที่เราคู่ควร









ไม่มีความคิดเห็น: