จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันเสาร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2554

เข็มทิศระบบจิตใต้สำนึก

เข็มทิศระบบจิตใต้สำนึก

เขียนโดย และลิขสิทธิ์งานเขียน ของ ฐิตินาถ ณ พัทลุง
ผู้เชี่ยวชาญพิเศษด้าน neurolinguistic Programming สถาบันตรัยยา
คนมากมาย ไม่พอใจผลลัพธ์ในชีวิต เช่น ความรัก ความสัมพันธ์ การงาน การเงิน สุขภาพ นำ้หนักตัว ความสุขสงบใจ ความรู้สึกพึงพอใจในชีวิต
การเปลี่ยนแปลงผลลัพธ์ในชีวิตต้องเริ่มที่บริเวณต้นเหตุคือจิตใต้สำนึกซึ่งเป็นส่วนที่เก็บ ประสพการณ์ ในอดีตทั้งหมด รวมมาเป็น ความเชื่อ ความเห็น อุปนิสัย พฤติกรรม ความเคยชิน กรอบในการมองโลก สิ่งที่เราให้ค่าว่าดี ไม่ดี ชอบ ไม่ชอบ อยากทำ ไม่อยากทำ ความเชื่อว่าทำได้สำเร็จ ไม่สำเร็จ
มนุษย์แต่ละคนมีระบบในการรับข้อมูล ตีความ จากนั้นก็จัดเก็บลงในจิตใต้สำนึก ระบบการตีความหรือกรอบในการมองโลกของคนที่รู้สึกไม่ดี เมื่อรับข้อมูลใหม่เข้ามาก็จะตีความตามเครื่องกรองประสพการณ์ที่ชำรุด ทำให้ตีความประสพการณ์ซำ้ลงร่องเดิม ตอบสนองไปตามความเชื่อเดิม ทำให้ชีวิตไม่สามารถ หลุดออกมาจากผลลัพธ์ที่ไม่น่าพอใจได้
การเปลี่ยนความเชื่อ อุปนิสัย ที่ฝังอยู่ในจิตใต้สำนึก ไม่สามารถ ใช้เพียงความต้องการเปลี่ยนความคิด เพราะความคิดออกมาจากตัวกรองประสพการณ์และ ความเชื่อ ที่ถูก ปกป้องโดย critical factors
Critical Factors กีดกันข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเชื่อเดิมของเรา
เวลาที่จิตใต้สำนึกรับและฝังความเชื่อ เกิดในภาวะจิตใจต่างๆที่ Critical factors หยุดทำงานเช่น ผ่อนคลายจนจิตสำนึกหยุดคิด เหม่อลอย กลัว ตกใจ ดูโทรทัศน์ ฟังซีดี ขับรถเพลินๆ
เช่น เวลาที่ลูกไม่คาดฝัน พ่อแม่ ดุลูกอย่างกระทันหัน วินาทีที่ลูกหยุดนิ่ง อึ้งอยู่ ขณะนั้นสิ่งที่พ่อ แม่ (ครู คนรัก เจ้านาย เพื่อน) พูดต่อมา จะไหลเข้าสู่จิตใต้สำนึกของลูกทันที



จิตใต้สำนึกเราเป็นเหมือน เครื่องคอมพิวเตอร์ ที่ระหว่างใช้งาน อาจรับ ไวรัส ขยะ หรือ ใช้ โปรแกรมซอฟแวร์ที่หมดอายุ ไม่เวิร์คอีกต่อไป การเปลี่ยนความเชื่อที่ไม่เป็นประโยชน์กับชีวิต ก็เหมือนการปรับปรุงโปรแกรมซอฟแวร์ ที่เราใช้ ให้ใช้สิ่งที่เป็นประโยชน์ ให้กับตัวเองและผู้อื่น ให้ชีวิตมีพลัง
วิธีการที่ทำ คือ ใช้การผ่อนคลายทำให้ สมองอยู่ในภาวะที่ทางวิชาการเรียกว่า Altered state หรือ heighten state of suggestibility แล้วให้ผู้เข้ารับ สามารถ เลือก ใส่ความเข้าใจ ลงไปในประสพการณ์ในอดีต เปลี่ยน มุมมองในการเลือกรับรู้โลก เลือกความรู้สึกที่มีต่อสิ่งต่างๆ
เช่น คนหนึ่งเคยกินเบียร์ครั้งแรกแล้วอาเจียร ต้องทำความสะอาด นึกถึงการกินเบียร์ ดึงภาพ กลิ่น สัมผัส ของการทำความสะอาด อาเจียร จนไม่กินเบียร์อีก

คนๆหนึ่งมีความรู้สึกต่อการมีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับครอบครัว คนที่รัก เคารพในทางลบ เพราะเคยมีประสพการณ์ ไม่ดีตอนเด็กๆ หรือจำความรู้สึก ถูกปฎิเสธ หรือล้มเหลวทางธุรกิจ หรือผิดหวังในความรัก ทำให้ไม่สามารถปรับสมองให้ คิด ทำพูด ที่ทำให้เกิด ความสำเร็จในเรื่องนั้นๆได้
เราจึงช่วยให้สามารถ เลือกเปลี่ยนสิ่งที่อยู่ในจิตใต้สำนึก ให้เป็นสิ่งที่มีประโยชน์กับชีวิต
เพราะหากไม่เปลี่ยน เมื่อคนๆหนึ่งไม่สามารถขับเคลื่อนไปสู่ชีวิตที่ต้องการ เขาก็จะ หนีจากสิ่งที่ควรทำจริงๆในชีวิต ย้ายความสนใจไปยังสิ่งดึงดูดความสนใจอื่น ( distraction) เช่น กินทั้งที่ไม่หิวจนอ้วนมาก ใช้จ่ายเกินตัวจนเป็นหนี้ ทำงานเพื่อลืมความทุกข์จนเสียสุขภาพ มีแฟนเยอะแต่เหงามาก สูบบุหรี่ทั้งที่สุขภาพไม่ดี แม้กระทั่งไปอาสาทำเรื่องของคนอื่นหรือส่วนรวมเพื่อหลีกเลี่ยงไม่สะสางเรื่องค้างคาของตนเอง หรือจิตใต้สำนึกสั่งให้เก็บความเจ็บป่วยหรือความทุกข์เรื้อรังไว้ เพื่อใช้เป็นที่ซ่อนตัวเพื่อจะได้ไม่ต้อง perform หรือ ส่งมอบผลงานในชีวิต และรับผิดชอบต่อครอบครัวและตนเอง


หรือพัฒนาไปสู่รอยฝังในใจที่ลึกขึ้น จนมีอาการชัดเจนจนต้องรับยาประเภทระงับตามอาการหรือแค่เพียงกดอาการไว้จากแพทย์ เช่น
ซึมเศร้า
ยำ้คิดยำ้ทำเพื่อให้รู้สึกปลอดภัยเวลาได้ทำอะไรซำ้ๆ เช่น ล้างมือ ปิดประตู เช็คกุญแจ ทำความสะอาด ทำร้ายตัวเอง
ไม่มีความสุข
อารมณ์เปลี่ยนแปลงรวดเร็วรุนแรง
จากความคิดเล็กๆพัฒนาไปสู่ความเคยชินที่จะคิดในรูปแบบที่เป็นโทษกับตัวเองซำ้ๆ
หลายคนเลือกทางแก้โดยใช้วิธีใช้ยากดประสาท ยาลดอาการซึมเศร้า เพื่อบรรเทาอาการ แต่ไม่ได้รักษาในระยะยาว เพราะไม่ได้เข้าไปจัดการที่ กระบวนการอัตโนมัติที่จิตใต้สำนึกเรียนรู้การคิดให้ตัวเองเป็นทุกข์จนชำนาญ
การทำงานนี้เป็นวิธีที่ผู้เข้ารับบริการเป็นผู้ควบคุมการเลือกที่จะเปลี่ยนแปลงตลอดรายการ นักบริหารจิตใต้สำนึกเป็นเพียงผู้ช่วย เป็น facilitator เป็น guide ตามแนวทางวิธีปฎิบัติที่ได้รับการยอมรับในทางวิชาการการบริหารจิตใต้สำนึกทั่วโลก

ปัจจุบันพี่อ้อย ฐิตินาถ ณ พัทลุงเป็นผู้เชี่ยวชาญพิเศษ Training Specialistที่ได้รับไลเซนต์ ในการฝึกอบรม ผู้ปฏิบัติการรักษาจิตใต้สำนึกให้ผู้คน จากสถาบันเอ็นแอลพี NLP Societyแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา



โดยจะเริ่มเปิดการฝึกอบรม สำหรับผู้ที่ต้องการรักษาผู้อื่น หรือดูแลตัวเองและคนในครอบครัว ตั้งแต่เดือน มีนาคม 2554เป็นต้นไป

ติดต่อ คุณ รินรดา 086 892 0440

ไม่มีความคิดเห็น: